ทำ seo

การปรับปรุงเว็บไซต์ HTTPS เพื่อ SEO: เพิ่มความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ

ในยุคที่ความปลอดภัยออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น การใช้ HTTPS บนเว็บไซต์ของคุณไม่ได้เป็นเพียงแค่การป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงอันดับทำ SEO ด้วย เว็บไซต์ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มักได้รับความไว้วางใจจากทั้งผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหาอย่าง Google การเปลี่ยนจาก HTTP เป็น HTTPS จึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของเว็บไซต์ไม่ควรมองข้าม


HTTPS คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

HTTPS (Hypertext Transfer Protocol Secure) เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยของ HTTP ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลระหว่างเบราว์เซอร์และเว็บไซต์ ความแตกต่างสำคัญคือ HTTPS ใช้การเข้ารหัสผ่าน SSL/TLS (Secure Sockets Layer/Transport Layer Security) เพื่อปกป้องข้อมูลจากการถูกดักฟังหรือขโมย

ข้อดีของ HTTPS:

  • ป้องกันข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตและรหัสผ่าน
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
  • ช่วยให้เว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับ SEO ที่ดีขึ้น

ผลกระทบของ HTTPS ต่อ SEO

  1. การจัดอันดับที่ดีขึ้นใน Google
    Google ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า HTTPS เป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับ (Ranking Factor) เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS มีโอกาสสูงขึ้นที่จะติดอันดับในผลการค้นหา
  2. เพิ่มความน่าเชื่อถือและอัตราการคลิก (CTR)
    เมื่อผู้ใช้เห็นสัญลักษณ์ “แม่กุญแจ” หรือข้อความ “ปลอดภัย” บนเบราว์เซอร์ พวกเขามักรู้สึกมั่นใจที่จะเข้าชมและโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น
  3. ลดอัตราการออกจากหน้าเว็บ (Bounce Rate)
    เว็บไซต์ที่มี HTTPS มักจะลดความกังวลของผู้ใช้งานเกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งช่วยให้พวกเขาอยู่บนเว็บไซต์ได้นานขึ้น
  4. รองรับการเชื่อมโยงแบบปลอดภัย (Secure Referrer Data)
    เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS จะรักษาข้อมูลอ้างอิง (Referrer Data) ให้ครบถ้วน ซึ่งช่วยในด้านการวิเคราะห์ทราฟฟิกและประสิทธิภาพของเว็บไซต์

ขั้นตอนการปรับปรุงเว็บไซต์ HTTPS

  1. เลือกใบรับรอง SSL/TLS ที่เหมาะสม
    • ใบรับรองแบบ Domain Validation (DV): เหมาะสำหรับเว็บไซต์ทั่วไป
    • ใบรับรองแบบ Organization Validation (OV): เพิ่มความน่าเชื่อถือโดยตรวจสอบองค์กร
    • ใบรับรองแบบ Extended Validation (EV): แสดงชื่อองค์กรในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์
  2. ติดตั้งใบรับรอง SSL/TLS
    ใช้บริการโฮสติ้งหรือผู้ให้บริการใบรับรอง SSL เพื่อช่วยติดตั้งใบรับรองบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณ
  3. เปลี่ยน URL ของเว็บไซต์จาก HTTP เป็น HTTPS
    • อัปเดตลิงก์ภายในเว็บไซต์ให้เปลี่ยนเป็น HTTPS
    • ใช้การเปลี่ยนเส้นทาง 301 (301 Redirect) เพื่อเปลี่ยนทราฟฟิกจาก HTTP ไปยัง HTTPS
  4. ตรวจสอบและแก้ไขเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัย (Mixed Content)
    หากหน้าเว็บมีลิงก์หรือเนื้อหาจาก HTTP เบราว์เซอร์จะเตือนว่าเว็บไซต์ไม่ปลอดภัย ควรตรวจสอบและอัปเดตให้ทุกเนื้อหาใช้ HTTPS
  5. แจ้งให้ Google รู้ว่าเว็บไซต์ใช้ HTTPS
    • อัปเดตเว็บไซต์ใน Google Search Console
    • ส่ง Sitemap ใหม่ที่ใช้ HTTPS เพื่อให้ Google จัดทำดัชนี (Index) อีกครั้ง
  6. ทดสอบเว็บไซต์
    ใช้เครื่องมือ เช่น SSL Labs หรือ Lighthouse เพื่อตรวจสอบว่าการติดตั้ง HTTPS ทำงานอย่างถูกต้อง

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการใช้ HTTPS

  • เลือกโฮสติ้งที่รองรับ HTTPS ฟรี: เช่น Let’s Encrypt ที่ให้บริการใบรับรอง SSL ฟรี
  • ทำการสำรองข้อมูล (Backup): ก่อนการเปลี่ยนเป็น HTTPS ควรสำรองข้อมูลเว็บไซต์เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด
  • อัปเดตเครื่องมือวิเคราะห์: เช่น Google Analytics และ Tag Manager ให้ใช้งานกับ HTTPS

ข้อควรระวังเมื่อเปลี่ยนเป็น HTTPS

  1. การสูญเสียทราฟฟิกชั่วคราว
    การเปลี่ยนแปลง URL อาจทำให้เกิดการสูญเสียทราฟฟิกในช่วงแรก ควรแจ้งให้ผู้ใช้งานและพันธมิตรทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนี้
  2. ค่าใช้จ่ายสำหรับใบรับรอง SSL ระดับสูง
    หากคุณเลือกใบรับรอง OV หรือ EV ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้น ควรพิจารณาตามความจำเป็น
  3. ตรวจสอบลิงก์ภายนอก
    ลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่ยังใช้ HTTP อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของ HTTPS ควรติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์เหล่านั้นเพื่ออัปเดตลิงก์

สรุป

การปรับปรุงเว็บไซต์เป็น HTTPS ไม่เพียงช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน แต่ยังส่งเสริมความน่าเชื่อถือและช่วยให้เว็บไซต์มีอันดับทำ SEO ที่ดีขึ้น การลงทุนในการปรับปรุงนี้เป็นก้าวสำคัญในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีและเสริมศักยภาพในการแข่งขันในโลกออนไลน์ อย่ารอช้าที่จะเปลี่ยนเว็บไซต์ของคุณให้พร้อมสำหรับอนาคตที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *