เพิ่มยอดขายด้วยเว็บไซต์: เคล็ดลับการสร้าง CTA ที่น่าสนใจ
การสอนทำเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับการออกแบบที่สวยงามและการจัดเตรียมเนื้อหาที่มีคุณค่า แต่ยังรวมถึงการสร้าง Call to Action (CTA) ที่ชัดเจนและน่าสนใจเพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ตัดสินใจดำเนินการบางอย่าง เช่น การซื้อสินค้าหรือบริการ การสมัครรับข่าวสาร หรือการติดต่อสอบถาม การสร้าง CTA ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างการตอบสนองจากผู้ใช้งานได้มากขึ้นในระยะยาว
ในบทความนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับในการสร้าง CTA ที่น่าสนใจเพื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้กับเว็บไซต์ของคุณ
1. ทำให้ CTA ชัดเจนและเข้าใจง่าย
การสร้าง CTA ที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการทำให้ข้อความของ CTA ชัดเจนและเข้าใจง่ายที่สุด ผู้ใช้งานต้องรู้ทันทีว่าต้องทำอะไรเมื่อเห็นปุ่ม CTA บนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการ “ซื้อเลย” “สมัครตอนนี้” หรือ “เรียนรู้เพิ่มเติม” คำเหล่านี้ต้องตรงไปตรงมาและสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว
เคล็ดลับ:
- ใช้คำกระตุ้นที่ตรงประเด็น เช่น “สั่งซื้อทันที” หรือ “ลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอพิเศษ”
- หลีกเลี่ยงคำที่ซับซ้อนหรือไม่ชัดเจน
2. เลือกสีที่โดดเด่นและสอดคล้องกับการออกแบบ
สีของ CTA มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้งาน เลือกสีที่ตัดกับพื้นหลังหรือส่วนอื่น ๆ ของเว็บไซต์ แต่ยังคงสอดคล้องกับสีแบรนด์ของคุณ เพื่อให้ CTA ของคุณโดดเด่นและไม่หลุดจากการออกแบบโดยรวม
เคล็ดลับ:
- ใช้สีที่ตรงกันข้ามกับสีพื้นหลัง (เช่น ปุ่ม CTA สีส้มบนพื้นหลังสีขาว)
- หลีกเลี่ยงสีที่คล้ายกับพื้นหลังหรือสีที่ทำให้ปุ่มมองเห็นยาก
3. ใช้ข้อความที่กระตุ้นความรู้สึกเร่งด่วน
การกระตุ้นให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่า “ต้องทำตอนนี้” เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเพิ่มอัตราการคลิก CTA ได้ดีขึ้น การใช้คำที่สร้างความเร่งด่วน เช่น “โปรโมชันหมดเขตเร็ว ๆ นี้” หรือ “จำนวนจำกัด” จะทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์รู้สึกว่าหากไม่ดำเนินการทันที อาจพลาดโอกาสดี ๆ
เคล็ดลับ:
- ใช้คำเช่น “จำกัดเวลา” “หมดเขตวันนี้” หรือ “สมัครก่อนหมดโควต้า”
- รวมตัวเลขที่ชัดเจน เช่น “รับส่วนลด 50% วันนี้เท่านั้น”
4. วาง CTA ไว้ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย
ตำแหน่งของ CTA มีผลอย่างมากต่อการที่ผู้ใช้งานจะคลิกหรือไม่ คุณควรวาง CTA ในตำแหน่งที่สะดุดตาและสามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น บนสุดของหน้าเว็บไซต์, ด้านข้างของหน้า หรือหลังจากเนื้อหาสำคัญ
เคล็ดลับ:
- วาง CTA ไว้ในตำแหน่งที่ผู้ใช้งานสามารถเห็นได้ทันที เช่น บนสุดของหน้า, ด้านข้างของหน้า หรือหลังจากคำอธิบายที่เกี่ยวข้อง
- ใช้ปุ่ม CTA ที่สามารถเลื่อนตามหน้าจอได้ (sticky button) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถคลิกได้ทุกที่
5. ทำให้ CTA เป็นปุ่มที่สามารถคลิกได้ง่าย
ปุ่ม CTA ต้องมีขนาดใหญ่พอที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถคลิกได้ง่าย ควรใช้ฟอนต์ที่อ่านง่าย และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดมาขวางทางปุ่มนั้นเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกดได้สะดวก
เคล็ดลับ:
- ใช้ฟอนต์ที่ชัดเจนและไม่ซับซ้อน
- ทำให้ปุ่ม CTA มีขนาดใหญ่พอที่จะคลิกได้ง่าย และมีระยะห่างจากองค์ประกอบอื่น ๆ
6. เสนอคุณค่าหรือสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ
การให้คุณค่าหรือสิ่งจูงใจที่น่าสนใจสามารถช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้งานคลิก CTA ได้มากขึ้น เช่น การเสนอลดราคาพิเศษ ฟรีทดลองใช้ หรือของแถม สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าการคลิก CTA นั้นคุ้มค่าและน่าสนใจ
เคล็ดลับ:
- ใช้ข้อความที่บอกถึงสิทธิพิเศษ เช่น “รับส่วนลด 30% เมื่อซื้อวันนี้”
- เสนอสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าได้รับสิ่งดี ๆ กลับไป เช่น “ทดลองใช้ฟรี 30 วัน”
7. ทดสอบและปรับปรุง CTA อย่างต่อเนื่อง
การทดสอบ A/B testing เป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบว่า CTA ไหนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด คุณสามารถทดสอบการใช้คำต่าง ๆ สีที่ต่างกัน หรือแม้แต่ตำแหน่งของ CTA เพื่อหาค่าที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
เคล็ดลับ:
- ทดสอบคำพูด, สี, และตำแหน่งของ CTA บนเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง
- เปรียบเทียบอัตราการคลิกและปรับปรุง CTA ตามผลลัพธ์
สรุป
การสอนทำเว็บไซต์ CTA ที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพสามารถช่วยเพิ่มยอดขายและการตอบสนองจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้มากขึ้น โดยการทำให้ CTA ชัดเจนและเข้าใจง่าย, ใช้สีที่โดดเด่น, กระตุ้นความเร่งด่วน, วางในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย, และเสนอคุณค่าที่น่าสนใจ รวมทั้งทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้งานทำตามที่คุณต้องการได้มากที่สุด