การเพิ่มแชทบ็อกซ์ในเว็บไซต์เป็นวิธีที่ดีในการให้บริการลูกค้าหรือผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ติดต่อสอบถามหรือขอข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น แชทบ็อกซ์ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับธุรกิจหรือเว็บไซต์ของคุณได้ทันที แต่ยังสามารถเชื่อมต่อกับ LINE และ Messenger ซึ่งเป็นช่องทางการติดต่อที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถติดต่อผ่านช่องทางที่สะดวกและคุ้นเคย
ในบทความนี้จะนำเสนอวิธีการเพิ่มแชทบ็อกซ์ในสอนทำเว็บไซต์และเชื่อมต่อกับ LINE และ Messenger อย่างง่ายดาย
1. เพิ่มแชทบ็อกซ์ LINE บนเว็บไซต์
LINE เป็นแอปพลิเคชันแชทที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า LINE Official Account หรือ LINE@ ซึ่งสามารถใช้งานเป็นแชทบ็อกซ์บนเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อธุรกิจหรือบริการได้ทันที
ขั้นตอนการเพิ่มแชทบ็อกซ์ LINE:
- สมัคร LINE Official Account:
- เข้าไปที่เว็บไซต์ LINE for Business (https://www.lineforbusiness.com) และสมัครใช้งาน LINE Official Account.
- กรอกข้อมูลพื้นฐานเช่น ชื่อบัญชี LINE, ข้อมูลธุรกิจ และวิธีการติดต่อ.
- เชื่อมต่อ LINE Official Account กับเว็บไซต์:
- ไปที่หน้า LINE Official Account Manager และเลือก Chat.
- ดาวน์โหลด LINE Chat Widget หรือโค้ดแชทบ็อกซ์.
- ติดตั้งโค้ดแชทบ็อกซ์ในเว็บไซต์:
- นำโค้ดที่ดาวน์โหลดมาแทรกในส่วนของ HTML ของเว็บไซต์ในตำแหน่งที่ต้องการให้แชทบ็อกซ์แสดง.
- คุณสามารถใส่โค้ดนี้ในส่วนของ footer, sidebar, หรือที่มุมล่างขวาของเว็บไซต์เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถคลิกและติดต่อผ่าน LINE ได้ทันที.
- ปรับแต่งแชทบ็อกซ์:
- ปรับแต่งสี, ขนาด, และตำแหน่งของแชทบ็อกซ์ให้เหมาะสมกับดีไซน์ของเว็บไซต์.
- ตั้งค่าตอบกลับอัตโนมัติ หรือให้แชทบ็อกซ์เปิดหน้าต่าง LINE เพื่อให้ลูกค้าสามารถส่งข้อความไปยังบัญชีของคุณ.
ข้อดีของการใช้ LINE Chat:
- ลูกค้าสามารถติดต่อผ่านแอปที่พวกเขาคุ้นเคย.
- มีฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น การส่งไฟล์, การโทรหาผ่าน LINE, และการส่งข้อความอัตโนมัติ.
2. เพิ่มแชทบ็อกซ์ Messenger บนเว็บไซต์
Facebook Messenger เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมสำหรับการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหรือผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ โดย Facebook มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Facebook Messenger Plugin ที่สามารถฝังลงในเว็บไซต์ได้
ขั้นตอนการเพิ่มแชทบ็อกซ์ Messenger:
- ไปที่ Facebook for Developers:
- เข้าไปที่เว็บไซต์ Facebook for Developers (https://developers.facebook.com) และเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Facebook ของคุณ.
- สร้าง Facebook App:
- ไปที่ My Apps และเลือก Create App เพื่อสร้างแอปใหม่สำหรับใช้เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของคุณ.
- เลือก Consumer และกรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อแอป, อีเมล และรายละเอียดอื่น ๆ.
- ตั้งค่า Messenger Plugin:
- หลังจากที่สร้างแอปแล้ว, เลือกที่ Messenger ในเมนูด้านซ้าย แล้วไปที่ Settings.
- เลือก Customer Chat แล้วกรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น Page ID (บัญชี Facebook ที่ต้องการให้เชื่อมต่อ), และเลือกโทนสีที่ต้องการแสดงบนเว็บไซต์.
- กำหนดข้อความต้อนรับและการตอบกลับอัตโนมัติได้ตามต้องการ.
- ติดตั้งโค้ดแชทบ็อกซ์ในเว็บไซต์:
- ดาวน์โหลดโค้ด Messenger Plugin จากหน้าการตั้งค่าใน Facebook for Developers.
- แทรกโค้ดที่ได้รับในส่วนของ HTML ของเว็บไซต์ เช่น ใน footer หรือ header.
- ปรับแต่งแชทบ็อกซ์:
- ปรับแต่งขนาด, สี และตำแหน่งของแชทบ็อกซ์ให้เหมาะสมกับดีไซน์เว็บไซต์.
- ตั้งค่าให้แชทบ็อกซ์ปรากฏในทุกหน้าเว็บไซต์ หรือแสดงเฉพาะในหน้าเพจที่ต้องการ.
ข้อดีของการใช้ Messenger Plugin:
- สามารถเชื่อมต่อกับบัญชี Facebook ได้ทันที.
- ผู้ใช้สามารถส่งข้อความ, ภาพถ่าย, และสื่ออื่น ๆ ผ่าน Messenger.
- การตอบกลับอัตโนมัติช่วยให้คุณสามารถตอบคำถามพื้นฐานได้ทันที.
3. เครื่องมือและแพลตฟอร์มเสริมที่สามารถช่วยเพิ่มแชทบ็อกซ์
นอกจากการเชื่อมต่อ LINE และ Messenger โดยตรงแล้ว ยังมี เครื่องมือเสริม ที่ช่วยเพิ่มแชทบ็อกซ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยให้การตั้งค่าและการใช้งานสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น:
- Tidio: เครื่องมือแชทบ็อกซ์ที่รองรับทั้ง LINE, Messenger, และช่องทางอื่น ๆ มีการตั้งค่าที่ใช้งานง่ายและสามารถเชื่อมต่อกับระบบการตอบกลับอัตโนมัติ.
- LiveChat: แพลตฟอร์มแชทบ็อกซ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับหลายแอปพลิเคชันและมีฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การตอบกลับอัตโนมัติ, การเก็บข้อมูลลูกค้า, และการรายงานผล.
- Intercom: อีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถติดตั้งแชทบ็อกซ์ได้หลายช่องทาง ทั้ง Messenger, LINE, และอื่น ๆ พร้อมฟีเจอร์การจัดการลูกค้าที่หลากหลาย.
สรุป
การเพิ่มแชทบ็อกซ์ในเว็บไซต์และเชื่อมต่อกับ LINE และ Messenger เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ วิธีการเชื่อมต่อทั้งสองแพลตฟอร์มนี้นั้นง่ายและสะดวก โดยสามารถติดตั้งโค้ดที่จำเป็นลงในสอนทำเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อผ่านช่องทางที่พวกเขาคุ้นเคยได้ทันที